ประวัติ ของ มินะโมะโตะ โนะ โยะชิสึเนะ

มินะโมะโตะ โนะ โยะชิสึเนะ เกิดเมื่อค.ศ. 1159 ที่นครเฮอังเกียว (เมืองเคียวโตะในปัจจุบัน) เกิดในตระกูลเซวะเง็นจิ (清和源氏) เป็นบุตรชายคนที่เก้าของ มินะโมะโตะ โนะ โยะชิโตะโมะ (源義朝) ซึ่งเป็นโทเรียว (棟梁) หรือประมุขตระกูลเซวะเง็นจิ เกิดกับนางโทะกิวะ-โงเซ็ง (常盤御前) ซึ่งเป็นภรรยาน้อยของโยะชิโตะโมะ เมื่อแรกเกิดโยะชิสึเนะมีชื่อว่า อุชิวะกะ-มะรุ (牛若丸) มีพี่ชายมารดาเดียวกันอยู่สองคนคือ อิมะวะกะ-มะรุ (今若丸) ต่อมาคือ พระภิกษุอะโนะ เซ็งโจ (阿野全成) และโอะสึวะกะ-มะรุ (乙若丸) ต่อมาคือพระภิกษุกิเอ็ง (義円)

ในค.ศ. 1160 เมื่ออุชิวะกะอายุยังไม่ทันถึงขวบปี ได้เกิดกบฏเฮจิขึ้นระหว่างตระกูลมินะโมะโตะนำโดย มินะโมะโตะ โนะ โยะชิโตะโมะ ผู้เป็นบิดา กับตระกูลเฮชิ (平氏) นำโดย ไทระ โนะ คิโยะโมะริ (平清盛) ผลปรากฏว่าตระกูลมิโนะโมะโตะพ่ายแพ้ โยะชิโตะโมะถูกสังหารในป่าขณะหลบหนี พี่ชายต่างมารดาและสมาชิกตระกูลมินะโมะโตะที่เหลือต่างถูกกวาดล้างและประหารชีวิตไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงมินะโมะโตะ โนะ โยะริโตะโมะ (源頼朝) ซึ่งถูกเนรเทศไปยังแคว้นอิซุทางตะวันออก นางโทะกิวะได้พาบุตรชายทั้งสามที่ยังเล็กหลบหนีซ่อนตัวในป่า จนกระทั่งคิโยะโมะริได้จับมารดาของนางโทะกิวะเป็นตัวประกัน นางโทะกิวะจึงยอมมอบตัวแต่คิโยะโมะริ ซึ่งคิโยะโมะริได้ไว้ชีวิตบุตรชายทั้งสามของนาง โดยมีเงื่อนไขว่านางโทะกิวะจะต้องเข้ามาเป็นภรรยาน้อยของคิโยะโมะริ และบุตรชายทั้งสามจะต้องไปอยู่วัดบวชเป็นพระภิกษุไปตลอดชีพ

อุชิวะกะมีความสามารถในการใช้ดาบตั้งแต่อายุยังน้อย โดยสามารถเอาชนะมุซะชิโบ เบ็งเก (武蔵坊弁慶) พระนักรบได้ที่สะพานโกโจ (五条大橋) ในนครเฮอังเกียว เบ็งเกจึงกลายเป็นผู้ติดตามคนสนิทของโยะชิสึเนะนับแต่บัดนั้น ในค.ศ. 1169 เมื่ออายุสิบเอ็ดปีอุชิวะกะจึงต้องพรากจากมารดาไปอยู่ที่วัดคุระมะ (鞍馬寺) ทางเหนือของนครเฮอังเกียวเพื่อเตรียมตัวบวชเป็นพระภิกษุตามที่ตกลงไว้ ได้รับชื่อใหม่ว่า ชะนะโอ (遮那王) อาศัยอยู่ที่วัดคุระมะจนกระทั่งค.ศ. 1174 ชะนะโอปฏิเสธที่จะบวชเป็นพระภิกษุ ได้ทำพิธีเง็มปุกุให้แก่ตนเองแล้วหลบหนีพร้อมกับเบ็งเกไปยังเมืองฮิระอิซุมิ (平泉) ในภูมิภาคโทโฮะกุทางเหนือ จังหวัดอิวะเตะในปัจจุบัน และได้รับการอุปถัมภ์โดย ฟุจิวะระ โนะ ฮิเดะฮิระ (藤原秀衡) ซะมุไรผู้ปกครองโอชู และได้รับนามจากฮิเดะฮิระว่า โยะชิสึเนะ

สงครามเก็มเป

ดูบทความหลักที่: สงครามเก็มเป

โยะชิสึเนะอาศัยอยู่ที่เมืองฮิระอิซุมิจนกระทั่งในค.ศ. 1180 โยะชิซึเนะได้ทราบข่าวว่าพี่ชายต่างมารดาของตนคือ มินะโมะโนะ โนะ โยะริโตะโมะ ได้ทำการต่อต้านการปกครองของตระกูลไทระโดยมีฐานที่มั่นอยู่ที่เมืองคะมะกุระ จังหวัดคะนะงะวะในปัจจุบัน โยะชิซึเนะจึงเดินทางจากเมืองฮิระอิซุมิพร้อมกับเบ็งเกมาพบกับโยะริโตะโมะที่แม่น้ำคิเซะ ใกล้กับเมืองชิซุโอกะในปัจจุบัน โยะริโตะโมะจึงรับโยะชิสึเนะเข้ามาเป็นหนึ่งในขุนพลตระกูลมินะโมะโตะในการทำสงครามกับตระกูลไทระซึ่งมีผู้นำคือไทระ โนะ มุเนะโมะริ (平宗盛)

ในขณะเดียวกันทางฝั่งตะวันตก มินะโมะโตะ โนะ โยะชินะกะ (源義仲) ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของโยะชิสึเนะ ไม่ยอมรับอำนาจของโยะริโตะโมะและต้องการที่จะสร้างเกียรติยศโดยการโค่นล้มตระกูลไทระด้วยตนเอง ค.ศ. 1183 โยะชินะกะสามารถเข้ายึดนครเฮอังเกียวได้ ทำให้มุเนะโมะริต้องพาสมาชิกตระกูลไทระอพยพไปยังเมืองยะชิมะ (屋島) บนเกาะชิโกกุ โยะริโตะโมะจึงส่งโยะชิสึเนะ ร่วมกับมินะโมะโตะ โนะ โนะริโยะริ (源範頼) พี่ชายต่างมารดา ยกทัพไปทางตะวันตกและสามารถยึดนครเฮอังเกียวจากโยะชินะกะได้ โยะชินะกะหลบหนีแต่ถูกโยะชิสึเนะและโนะริโยะริติดตามจนต่อสู้กันที่เมืองโอสึ ในค.ศ. 1184 โยะชินะกะถูกสังหารในที่สุด

ยุทธนาวีทังโนะอุระ

ในค.ศ. 1184 โยะชิสึเนะและโนะริโยะริยกทัพมาเอาชนะทัพของตระกูลไทระได้ในยุทธการอิชิโนะตะนิ (一ノ谷の戦い) ในบริเวณเมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะในปัจจุบัน ไทระ โนะ ทะดะโนะริ (平忠度) ถูกสังหารในที่รบ และไทระ โนะ ชิเงะฮิระ (平重衡) ถูกจับกุมตัวได้ ปีต่อมาค.ศ. 1185 โยะชิสึเนะนำทัพเข้าล้อมเมืองยะชิมะ จนสามารถตีเมืองยะชิมะแตกได้จนมุเนะโมะริต้องพาสมาชิกตระกูลไทระลงเรืออพยพไปทางตะวันตก โยะชิสึเนะได้ยกทัพเรือออกติดตามจนปะทะกับทัพเรือของตระกูลไทระที่ช่องแคบคัมมง ในยุทธนาวีดังโนะอุระ (壇ノ浦の戦い) จนมีชัยชนะเหนือตระกูลไทระ สมาชิกตระกูลไทระเกือบทั้งหมดจึงกระโดดลงทะเลเสียชีวิตเพื่อหนีความพ่ายแพ้ นางนิอิ-โนะ-อะมะ (二位尼 หรือไทระ โนะ โทะกิโกะ) ภรรยาเอกของคิโยะโมะริ ได้อุ้มจักรพรรดิอันโตะกุ พระชนมายุเพียงเจ็ดพรรษากระโดดลงทะเลสวรรคต

ความขัดแย้งกับโยะริโตะโมะ

ในขณะที่พำนักอยู่ที่นครเฮอังเกียวโยะชิสึเนะได้พบรักกับนางชิซุกะ-โงเซ็ง ซึ่งเป็นชิระเบียวชิ หรือนางรำศาลเจ้า แต่ในค.ศ. 1184 โยะริโตะโมะผู้เป็นพี่ชายได้บังคับให้โยะชิสึเนะสมรสกับนางซะโตะ-โงเซ็ง ซึ่งเป็นหลานสาวของแม่นมของโยะริโตะโมะเอง โยะชิสึเนะมีบุตรสาวกับนางซะโตะหนึ่งคน

หลังจากชัยชนะของโยะชิสึเนะที่ยุทธนาวีทังโนะอุระ ทำให้ความสำเร็จอันโดดเด่นและรวดเร็วของโยะชิสึเนะเป็นที่อิจฉาของขุนพลคนอื่นๆ โดยเฉพาะคะจิวะระ คะเงะโตะกิ (梶原景時) ซึ่งได้ยุยงให้โยะริโตะโมะเชื่อว่าโยะชิสึเนะไม่เชื่อฟังและต้องการที่จะสร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเองเพียงอย่างเดียว เมื่อกลับถึงนครเฮอังเกียวในค.ศ. 1185 อดีตจักรพรรดิโกะ-ชิระกะวะยังทรงแต่งตั้งให้โยะชิสึเนะเป็นองครักษ์ สรังความไม่พอใจแก่โยะริโตะโมะอย่างมากซึ่งประกาศว่าหากขุนพลคนใดรับตำแหน่งในราชสำนักจะถือว่าทรยศ [2] โยะชิสึเนะและโนะริโยะริกุมตัวมุเนะโมะริพร้อมบุตรชายและเชลยศึกคนอื่นๆกลับไปยังเมืองคะมะกุระเพื่อตัดสินโทษ แต่ทว่าโยะชิสึเนะกลับถูกสกัดกั้นที่เขตโคะชิโงะเอะ (腰越状) นอกเมืองคะมะกุระไม่ให้เข้าเมือง โยะชิสึเนะรออยู่นอกเมืองจนกระทั่งการไต่สวนเสร็จสิ้นโยะชิสึเนะจึงนำนักโทษกลับนครเฮอังเกียว แต่โยะริโตะโมะกลับส่งทัพติดตามมาสังหารนักโทษตระกูลไทระจนหมดสิ้น

โยะริโตะโมะมีคำสั่งให้โนะริโยะริยกทัพจากคะมะกุระไปสังหารโยะชิสึเนะทางตะวันตก โนะริโยะริผู้เป็นพี่ชายร่วมศึกกับโยะชิสึเนะมานานปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่ง โยะริโตะโมะจึงส่งพระนักรบโทะซะโนะโบะ โชชุน (土佐坊昌俊) แอบเดินทางมายังนครเฮอังเกียวเพื่อทำการลอบสังหารโยะชิสึเนะแต่ไม่สำเร็จและโชชุนถูกสังหาร อดีตพระจักรพรรดิโกะ-ชิระกะวะจึงมีราชโองการให้โยะชิสึเนะยกทัพไปตะวันออกเพื่อปราบโยะริโตะโมะ โยะริโตะโมะจึงส่งทัพมายังนครเฮอังเกียวเพื่อกดดันองค์อดีตพระจักรพรรดิให้เปลี่ยนราชโองการให้โยะริโตะโมะทำการปราบโยะชิสึเนะได้สำเร็จ

ในค.ศ. 1185 โยะชิสึเนะจึงตัดสินใจหลบหนีออกจากนครเฮอังเกียวพร้อมกับเบ็งเกและนางชิซุกะกลับไปยังเมืองฮิระอิซุมิทางเหนือเพื่อขอความช่วยเหลือจากฮิเดะฮิระ แต่ด้วยความลำบากในการเดินทางทำให้โยะชิสึเนะตัดสินใจส่งตัวนางชิซุกะกลับไปยังนครเฮอังเกียว แต่นางชิซุกะถูกจับกุมตัวได้ระหว่างทางและถูกส่งไปยังเมืองคะมะกุระและค้นพบว่านางชิซุกะได้ตั้งครรภ์ คลอดบุตรออกมาที่เมืองคะมะกุระปรากฏว่าเป็นบุตรชาย มารดาของนางชิซุกะได้ช่วยให้นางชิซุกะและบุตรชายหลบหนีกลับไปยังนครเฮอังเกียว แต่ทั้งนางชิซุกะและบุตรชายก็ถูกสังหารในเวลาต่อมา

ฝ่ายโยะชิสึเนะและเบ็งเกพำนักอยู่ที่เมืองฮิระอิซุมิภายใต้การปกป้องของฮิเดะฮิระ จนกระทั่งฮิเดะฮิระได้เสียชีวิตลงในค.ศ. 1187 ฟุจิวะระ โนะ ยะซุฮิระ (藤原泰衡) บุตรชายจึงขึ้นเป็นผู้ปกครองโอชูแทนที่บิดา ยะซุฮิระเห็นว่าหากตนให้ที่พำนักแก่โยะชิสึเนะต่อไปโอชูจะมีภัยจากคะมะกุระ จึงส่งกำลังพลมาทำการสังหารโยะชิสึเนะในค.ศ. 1189 ที่แม่น้ำโคะโระโมะ โยะชิสึเนะกระทำการเซ็ปปุกุเสียชีวิตลง และเบ็งเกได้ต่อสู้จนเสียชีวิตในท่ายืนอันเป็นตำนาน ก่อนเสียชีวิตโยะชิสึเนะได้ทำการสังหารนางซะโตะภรรยาเอกและบุตรสาวเพื่อไม่ให้ภรรยาเอกของตนตกไปเป็นของศัตรู

ใกล้เคียง

มินะโมะโตะ มินะโมะโตะ โนะ อะริโกะ มินะโมะโตะ โนะ โยะริโตะโมะ มินะโมะโตะ โนะ โยะชิสึเนะ มินะโมะโตะ โนะ สึเนะโมะโตะ มินะโมะโตะ โนะ โยะชิโตะโมะ มินะโมะโตะ โนะ คิโยะฮิเมะ มินะโมะโตะ โนะ ซะเนะโตะโมะ มินะโมะโตะ โนะ โยะริอิเอะ มินะโมะโตะ อะสึชิโกะ